Blog
Blog
จำนวนเหตุเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุอัคคีภัยนั้น มีสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่ในพื้นที่ ทั้งภายในบ้าน ภายในอาคาร โรงงานหรือพื้นที่ต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งรางปลั๊กไฟ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและมองข้ามไปไม่ได้ เพื่อลดโอกาสการเกิดอัคคีภัยจากเหตุไฟช็อต หรือไฟรั่วไหลเกินกว่าปกติ
แล้วการตรวจสอบระบบไฟฟ้า หรือ Electrical Safety Testing ตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบ
สาเหตุสำคัญในการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า คือความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภค เพราะการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือขาดการบำรุงรักษาอาจจะทำให้เกิดอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าได้ สำหรับอันตรายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มักจะเกิดขึ้นมาจากสาเหตุ 2 คือ ไฟฟ้าช็อต และไฟฟ้าดูด
ด้วยเหตุนี้ การทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้งาน
การตรวจความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า (Electrical Safety) คือ คือการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้น เพื่อประเมินความเสี่ยงของการเกิดไฟฟ้าช็อต หรือลัดวงจรเมื่อนำไปใช้งานจริง เป็นการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐว่าได้มาตรฐานตามที่กำหนด
นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละประเทศแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าประเภทอุปกรณ์ไฟฟ้า ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งาน ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สำหรับโรงงานที่เป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน สำนักงาน หรือสถานที่ต่าง ๆ ต้องดำเนินการทดสอบทางไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทางโรงงานได้มีการผลิตโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การทดสอบแรงดันไฟฟ้าสูงหรือการทดสอบความทนทานของไดอิเล็กทริก ซึ่งเป็นการตรวจวัดความสามารถของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าในการทนต่อแรงดันไฟฟ้าระดับสูงที่เกิดขึ้นระหว่างวงจรไฟฟ้าของผลิตภัณฑ์และกราวด์
การทดสอบค่ากระแสรั่วไหล เพื่อให้มั่นใจว่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลเวียนอยู่ในระบบนั้นไม่เกินกว่าค่าที่กำหนดในขณะที่ใช้งาน
การทดสอบความต้านทานฉนวน คือการตรวจวัดคุณภาพของฉนวนไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ หากมีค่าต่ำกว่าที่กำหนด อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังและตรวจสอบอยู่เป็นประจำ
การทดสอบความต่อเนื่องของสายกราวด์ จะเป็นการตรวจสอบว่า ระหว่างพื้นผิวสัมผัสที่เป็นโลหะกับสายกราวด์ มีการเชื่อมต่อกันหรือไม่ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้งานระบบไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด
สำหรับธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากจะต้องใส่ใจกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในโรงงานเป็นประจำทุกปี เพื่อลดอัตราการเกิดอัคคีภัยแล้ว การผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานตามหลักความปลอดภัยทางไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่คุณผลิตนั้นมีความถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภคหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย ซึ่งเกิดจากระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน
ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัท เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในด้านของความปลอดภัย
หลีกเลี่ยงการเรียกคืนผลิตภัณฑ์หลังวางจำหน่าย ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงและทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงได้ในภายหลัง
ลดความเสี่ยงในการถูกฟ้อง เนื่องจากผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ
สร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ของคุณ อยู่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยการได้รับรองตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านไฟฟ้า
ส่งออกได้ง่าย ขายภายในประเทศก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี เพราะมีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ
หากคุณเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ คุณสามารถใช้บริการตรวจสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้ากับ TÜV SÜD ได้ เราให้บริการโดยทีมวิศวกรมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ทำการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐานและมีสาขาอยู่ทั่วโลก สามารถทำการทดสอบอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าได้หลากหลายประเภท รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเรามีบริการรับรองคุณภาพตามหลักเกณฑ์ IECEE CB อันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้เรายังเป็นหน่วยงานตรวจสอบอิสระ ภายใต้กฎระเบียบที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป ที่ได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศ
เลือกที่ตั้งของคุณ
Global
Americas
Asia
Europe
Middle East and Africa